"มาโน่ โพลกิ้ง" กุนซือนอกสายตา ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?
มาโน่ โพลกิ้ง ที่ปรึกษาชาวบราซิล-เยอรมัน คือผู้จัดการทีมชาติไทย ที่ก่อนหน้านี้อยู่นอกสายตา และก็สามารถ พาทีมไทย เป็นแชมป์อาเซียนคัพ 2 สมัยซ้อน หลังจากนี้ควรไปต่อหรือพอเพียงเท่านี้?
หลังนำทัพ ช้างศึก คว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2022 พร้อมย้ำแค้น คู่ปรับตัวฉกาจอย่างเวียดนาม กระทั่งทำให้ฉากจบของ ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ ไม่ได้สวยหรู อย่างที่วาดฝันไว้ ส่งให้มาโน่ โพลกิ้ง เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 3 ของทีมชาติไทย ที่สามารถนำทีมคว้าแชมป์รายการนี้ 2สมัยติดต่อกัน ต่อจาก ปีเตอร์ วิธ รวมทั้ง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
แม้ใครติดตามผลงานของ มาโน่ โพลกิ้งในการคุมทีมชาติไทยมาตลอด สิ่งที่เห็นชัดเจนแล้วก็แตกต่างจากโค้ช รายอื่นของช้างศึก
คือ เขาไม่ได้เริ่มจาก “ชื่อชั้น” หรือจุดสูงสุดในชีวิตที่เคยจับจับความสำเร็จมาก่อน
หากเปรียบเทียบเทียบกับ ทั้ง อากิระ นิชิโนะ, มิโลวาน ราเยวัช ,ไบรอัน ร็อบสัน ,ปีเตอร์ รีด ซึ่งกุนซือเหล่านี้ต่างทำให้แฟนฟุตบอลไทย หัวใจเต้นรัวๆเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะก้าวเข้ามาบัญชาการเกมของทัพช้างศึก ตรงกันข้าม มาโน่ โพลกิ้งถูกแฟนฟุตบอลไทยตีตรา
แล้วก็ดูแคลน ว่าเป็นที่ปรึกษาขัดตาทัพ แถมเขาต้องแบกรับพนันตั้งแต่เริ่ม เพราะว่าหากล้มเหลว ไม่สามารถทวงแชมป์อาเซียนคัพ 2020 ซึ่งมาแข่งกันในปี 2021 ได้สำเร็จ เขาก็อาจไม่ได้ไปต่อตั้งแต่ตอนนั้น ด้วยสัญญาระยะสั้น รวมทั้งมีเวลารวมนักฟุตบอลซ้อมแค่เพียงสัปดาห์เดียว
เหตุผลเดียวที่เขาถูกเลือกและก็ เหมาะสมภายใต้ระยะเวลา การเตรียมทีมที่จำกัด คงเป็นเพราะว่ามาโน่ โพลกิ้ง เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวต่างชาติ ที่รู้จักนักฟุตบอลไทยในทุกรายละเอียด เป็นลำดับต้น ๆ เพราะว่านอกเหนือจากเคยเป็นผู้ช่วยโค้ช ในยุคที่วินฟรีด เชเฟอร์ คุมทัพช้างศึก เขายังอยู่ในบทบาทเฮดโค้ชแบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมดังในไทยลีกมานานหลายปี
ข้อติเตียนและก็คำสบประมาท จากแฟนบอลไทย ที่ถาโถมเข้าใส่กุนซือรายนี้ เอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะถ้าหากย้อนดูเส้นทาง ในเกมลูกหนังอาชีพของมาโน โพลกิ้ง เขาไม่เคยเอื้อมถึงความสำเร็จ ในฐานะแชมป์เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ไล่เรียงตั้งแต่ชีวิตค้าแข้งในฐานะนักฟุตบอล เขาโลดแล่นอยู่ในลีกอาชีพที่ไซปรัส ก่อนจะแขวนสตั๊ดในวัย31 โดยไม่เคยเป็นแชมป์
หลังแยกทางกับวินฟรีด เชเฟอร์ ในฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ “มาโน่ โพลกิ้ง” ได้รับความไว้วางใจให้ทำทีมชาติไทยชุดยู 22 ชั่วคราว แต่ผลงานก็ยังไม่เข้าเป้า
จากนั้นเขาขยับมาคุมทีมไทยลีกอย่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด และก็ต่อด้วยสุพรรณบุรี เอฟซี แต่ไม่นาน ก็เป็นไปตามวิถีฟุตบอลอาชีพ เมื่อไม่สามารถนำความสำเร็จมาสู่ทีมได้
ผลงานที่ดูเหมือนจะเด่น และเริ่มสร้างชื่อให้กับ “มาโน่ โพลกิ้ง” ในบทบาทเฮดโค้ชได้บ้าง ก็คือได้โอกาสทำทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
เขาอยู่ที่นี่สม่ำเสมอนานถึง 7 ปี รวมทั้งเริ่มสร้างสไตล์แล้วก็แนวทางเล่นของทีมแข้งเทพยุคนั้น กระทั่งเป็นที่จดจำว่าเป็นทีมที่ขับเคลื่อนเกมรุกได้สนุก ที่สุดทีมหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถพาแข้งเทพหยิบจับถ้วยแชมป์ใดๆมาครองได้ ผลงานดีที่สุด คือ การคว้ารองแชมป์ไทยลีก , เอฟเอคัพ
รวมทั้งคว้า โควต้า เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีกเท่านั้น จนถึงในที่สุดเขากับทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถไปต่อกันได้ ท่ามกลางภาพจำ ของแฟนฟุตบอลไทยว่าที่ปรึกษารายนี้ ทำฟุตบอลได้แค่การสร้างความบันเทิง เอ็นเตอร์เทน คนดูด้วยเกมบุก แต่เกมรับก็พร้อมเสียประตูทุกวินาที
หลังจากนั้น มาโน่ โพลกิ้ง ก็ไปหาความท้าทาย
ในวีลีกกับสโมสรโอจิมินห์ ซิตี้ ที่นั่นเขายิ่งไม่เข้าใกล้ความสำเร็จอะไรก็แล้วแต่เลย ด้วยเหตุนี้การพาช้างศึกได้แชมป์อาเซียนคัพ 2 สมัยติด น่าจะเป็นความสำเร็จ ที่เป็นชิ้นเป็นอันที่สุดของชีวิต ของมาโน่ โพลกิ้ง ในฐานะเฮดโค้ช
การคุมทัพช้างศึกตั้งแต่กันยายน 2021 ของมาโน่ โพลกิ้ง นอกเหนือจากการที่จะพาทีมชาติไทยทวงความยิ่งใหญ่ในอาเซียนกลับมาได้ เขายังพิสูจน์ให้มีความเห็นว่า ไม่เพียงแต่ความกล้าในตัว การหยิบจับนักฟุตบอลในไทยลีก
ที่เปรียบได้เสมือนดั่งวัตถุดิบมาปรุงและก็แนวทางการเล่นในแต่ละเกม เขาอาจจะไม่ได้ทำได้สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้น แต่มันกลับมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด
“ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ผู้ครอบครองสมญานามเพชฌฆาตหน้าหยก ถึงกับขนาดชื่นชมหลังเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนของมาโน่ โพลกิ้ง โดยบอกว่า เริ่มแรกเขายังไม่แน่ใจกับผู้จัดการทีมที่เกิดในบราซิล
แล้วก็เติบโตที่เยอรมนีรายนี้ แต่เมื่อมาโน่ โพลกิ้ง พิสูจน์ให้เห็นในรายการชิงแชมป์อาเซียน 2 สมัยว่า เขาสามารถสร้างความแตกต่างให้ไทย กับทุกชาติในอาเซียนได้ด้วย การสร้างนักฟุตบอลที่เป็นตัวเลือกให้กับทัพช้างศึกได้มากถึงกว่า 40 คน แถมยังสามารถผลัดเปลี่ยนหมุนวนนักเตะกลุ่มนี้ลงไปสัมผัสเกมได้อย่างทั่วถึง และการปรับแผนการเล่นให้มีความหลากหลาย เหมาะสมกับสถานการณ์ บางเกมใช้ 4-3-2-1 บางเกมใช้ 4-4-2 ไดมอนด์ บางเกมใช้ 5-3-2 ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใส่ระบบการเล่นลักษณะนี้ให้นักเตะ โดยตัวนักเตะทุกคนทำตาม ได้ภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด แต่มาโน่ โพลกิ้ง พิสูจน์แล้วว่า เขาสามารถทำได้ในระดับอาเซียน ที่เหลือก็คือการสานต่อแล้วก็พาทัพช้างศึกไปทดลองต่อในระดับเอเชีย
สัปดาห์หน้าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะสรุปผลงานรวมทั้งพูดคุยเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ของมาโน่ โพลกิ้ง ในสายตาของ“ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” ซึ่งช่วงหลังออกมาวิเคราะห์วิจารณ์ฟุตบอลไทยอย่างเผ็ดร้อนรุนแรง ตรงไปตรงมา ก็ยังมองไม่มองเห็นเหตุผลที่จะไม่ต่อสัญญาแล้วก็ให้โอกาสทีมงานของมาโน่ โพลกิ้ง ทำงานต่อ